นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมดิคอล ซอร์ซ (“ห้างฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อรับผลิตภัณฑ์และบริการ โดยห้างฯมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น ห้างฯจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้ง เกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลที่ห้างฯ จะดำเนินการให้ผู้ใช้บริการ ในฐานะผู้ใช้บริการรับทราบ ห้างฯ ให้ความเชื่อมั่นแก่ท่านว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านเป็นข้อมูลที่ทางห้างฯ ให้ความสำคัญ โดยห้างฯ รับประกันจะปกป้องและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างดีที่สุด และข้อมูลทั้งหมดของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ โดยห้างฯ ขอแนะนำให้ท่านโปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์ที่ห้างฯได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อท่าน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ขอบเขตการใช้บังคับ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยห้างฯ รวมถึงบุคคลใด ๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของห้างฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ ห้างฯสามารถเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยการเปิดเผยและการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ข้อ 2. คำจำกัดความ
“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า นโยบาย ที่ห้างฯจัดทำเพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการประมวลผลข้อมูลของห้างฯ และรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน อีเมลแอดเดรส (email address) ที่ใช้ในการทำงาน เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ทั้งนี้ ต่อไปในนโยบายฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
“การประมวลผล” หมายความว่า การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject) หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Processor) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“คุกกี้” (Cookies) หมายความว่า ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น
ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ข้อ 4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ
ห้างฯจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล เท่านั้น ห้างฯจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่ห้างฯรู้โดยแจ้งชัดว่าอายุต่ำกว่ายี่สิบปี หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถและคนไร้ความสามารถหากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม ในกรณีที่ห้างฯทราบว่า ห้างฯได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีเจตนาจากบุคคลใด ๆ ที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปี คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ห้างฯจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวทันที หรือประมวลผลเฉพาะในส่วนของข้อมูลที่บริษัทสามารถกระทำได้บนฐานทางกฎหมายอื่น ๆ นอกเหนือจากการขอความยินยอม
ข้อ 5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ห้างฯเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อ 6. คุณภาพของข้อมูล
ห้างฯมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อนําไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินงานตามวัตถุประสงค์และพันธกิจของห้างฯ ระหว่างท่านกับห้างฯ โดยข้อมูลที่ได้ทําการจัดเก็บนั้น ห้างฯได้คํานึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
ข้อ 7. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
ห้างฯอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อ 8. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ห้างฯจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้
ข้อ 9. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 10. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ห้างฯอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของห้างฯ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ห้างฯจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของห้างฯในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ห้างฯมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ห้างฯมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของห้าง เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ ห้างฯจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างห้างฯกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 11. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ห้างฯอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของห้างฯ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่าง ๆ ในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างห้างฯกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ ห้างฯจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน ห้างฯอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้
ข้อ 12. การเก็บรักษา และระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ห้างฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือยังคงใช้บริการของห้างฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ ห้างฯจะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
ข้อ 13. มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับห้างฯและห้างฯได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ห้างฯจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้ห้างฯจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log out) ที่เจ้าของข้อมูลได้เข้าใช้งานโดยการกระทำของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล
ข้อ 14. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิ
ข้อ 15. การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” (Cookies) คือ ข้อมูลที่ห้างฯ ส่งไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้บริการเว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของห้างฯ และติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากมีการใช้คุกกี้ก็จะทำให้เว็บไซต์ของห้างฯ สามารถบันทึกหรือจดจำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะออกจากเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) หรือจนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการลบ คุกกี้นั้นเสียหรือไม่อนุญาตให้คุกกี้นั้นทำงานอีกต่อไป
การใช้คุกกี้จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของห้างฯ มากขึ้น เพราะคุกกี้จะช่วยจดจำเว็บไซต์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแวะหรือเยี่ยมชม ทั้งนี้ ห้างฯอาจขอความยินยอมจากท่านในการนำข้อมูลที่คุกกี้ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในกรณี ดังต่อไปนี้
ข้อ 16. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ห้างฯจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ห้างฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับนโยบายฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ ห้างฯขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ในกรณีที่นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับก่อนและฉบับที่แก้ไขมีข้อความแตกต่างกัน ในส่วนที่แตกต่างกันให้ถือตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับที่มีการแก้ไขเป็นหลัก
ข้อ 17. สิทธิเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
ในการใช้บริการแอบพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของห้างฯ อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ ห้างฯพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ห้างฯไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ประกาศ / นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ ห้างฯไม่อาจควบคุมและไม่อาจรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว
ข้อ 18. ช่องทางการติดต่อ
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ห้างฯยินดีตอบข้อสงสัย และรับฟังข้อเสนอแนะของท่าน โดยท่านสามารถติดต่อกับห้างฯได้ตามสถานที่ติดต่อ ดังนี้ หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
ชื่อ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมดิคอล ซอร์ซ
สถานที่ติดต่อ:เลขที่ 91/1640 ซอยนวลจันทร์ 56 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรงเทพมหานคร 10230
ช่องทางการติดต่อ: email: medicalsourcethai@gmail.com
รายละเอียดของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 91/1640 ซอยนวลจันทร์ 56 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรงเทพมหานคร 10230
ช่องทางการติดต่อ: email: medicalsourcethai@gmail.com
ข้อ 19. บทลงโทษ
พนักงาน ผู้บริหาร และ/หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฎิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมาย และหรือความเสียหายขึ้น พนักงาน ผู้บริหาร และ/หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของห้างฯ หรือมีหน้าที่รับผิดชอบการกระทำนั้นทางกฎหมายตามความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่ห้างฯ และหรือบุคคลอื่นใด ห้างฯอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อ 20. กฎหมายที่ใช้บังคับ
ท่านรับทราบและตกลงให้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น